ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (สำหรับบุคคลภายนอก)

โรงพยาบาลเมืองนารายณ์ (บริษัท โรงพยาบาลเมืองนารายณ์ จำกัด)และบริษัทในเครือรวมถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของโรงพยาบาลเมืองนารายณ์ (บริษัท โรงพยาบาลเมืองนารายณ์ จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “โรงพยาบาล” มุ่งมั่นที่จะปกป้อง ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ คู่ค้า พันธมิตร เรียกรวมกันว่าทางธุรกิจ “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล”) ไม่ว่าจะ เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย   ( เรียกรวมกันว่า “การประมวลผลข้อมูล”) เพื่อให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โรงพยาบาล จึงออกประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งข้อมูลให้แก่ผู้ใช้บริการอันเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ ตลอดจนเงื่อนไขต่างๆ ในการเก็บ รวมรวบ ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลดังนี้

 
o     ข้อมูลส่วนบุคคล
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ

 
o   ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวม
ในการเก็บรวบรวมและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลโรงพยาบาลจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของโรงพยาบาลอันประกอบด้วย

1.   ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ - นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, อายุ, สัญชาติ, เลขประจำตัวประชาชน, เลขที่ หนังสือเดินทาง, หมู่โลหิต, ลายมือชื่อ, รูปถ่าย, อาชีพ
2.  ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล
3.  ข้อมูลเอกสารทางราชการ เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาหนังสือเดินทาง, เลขที่ใบต่างด้าว
4.  ข้อมูลทางการเงิน เช่น สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร, ข้อมูลเลขบัตรเครดิต
5.  ข้อมูลที่ได้จากเก็บรวบรวมของโรงพยาบาล หรือระบบอัตโนมัติจากอุปกรณ์ต่างๆ ของ โรงพยาบาล เช่น หมายเลข HN, หมายเลข IP Address, Cookie, พฤติกรรมการใช้บริการ, ประวัติการใช้บริการ, เสียง, ภาพถ่าย, ภาพเคลื่อนไหว, ชื่อบัญชี SocialMedia , Chat, Geolocation

โดยโรงพยาบาล จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล บุคคลก่อน ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้

1.    เพื่อปฏิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นในการ ให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและโรงพยาบาล
2.  เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
3.  เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
4. เพื่อผลประโยชน์อันชอบโดยกฎหมายของโรงพยาบาล กรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ในการดำเนินงานของโรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลจะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่าย การปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลเป็นต้น
5.  เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติกรณีที่มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
6.  เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่โรงพยาบาลได้รับมอบหมาย


o     ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
โรงพยาบาลอาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลความพิการ ศาสนา ข้อมูลชีวภาพ โดยโรงพยาบาลจะทำการขอคำยินยอมจากท่านทุกครั้งในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เว้นแต่

1.    เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
2.   เป็นการดำเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม หรือ องค์กรที่ ไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงาน ให้แก่สมาชิก ผู้ซึ่งเคยเป็นสมาชิก หรือผู้ซึ่งมีการติดต่ออย่างสม่ำเสมอกับมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กร ที่ไม่แสวงหากำไรตาม วัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นออกไปภายนอกมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรนั้น
3.   เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
4.   เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
5.   เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ
       5.1. เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์
       5.2. ประโยชน์ด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด

       5.3. การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม
     5.4. การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น
       5.5. ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ


o      แหล่งที่มาของข้อมูล

1.     ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ที่ท่านได้ให้ไว้ในกิจกรรมต่างๆที่ เช่น เข้ารับการรักษา, ตอบแบบสอบถาม, สมัครรับข้อมูลข่าวสาร,เข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด ช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือช่องทางอื่นของโรงพยาบาล, การเข้า - ออก ภายในโรงพยาบาล, การจัดอบรม, การจัดซื้อจัดจ้าง, การตอบโต้ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) หรือการกรอก/ให้ข้อมูลประกอบการสมัครงาน หรือช่อง ทางการสื่อสารอื่นๆระหว่างโรงพยาบาลและท่าน
2.     ข้อมูลจากบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้อง,คนในครอบครัว เช่น ญาติ, คนในครอบครัว
3.     ข้อมูลจากระบบอัตโนมัติ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น ข้อมูลจาก เครื่องมือทางการแพทย์
4.     ข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลจากหน่วยงานพันธมิตร หน่วยงานราชการ หรือโรงพยาบาลในเครือ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการได้มอบไว้ให้

 
o      วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้หรือตามวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่แจ้งขณะเก็บรวบรวมข้อมูลหรือที่ท่านได้ให้ความยินยอมหลังจากโรงพยาบาลดำเนินการเก็บข้อมูลไปแล้ว

1.    จัดหาหรือส่งมอบบริการทางการแพทย์
2.   สร้างและจัดเก็บข้อมูลประวัติการรักษาของท่าน
3.   นัดหมาย แจ้งเตือน ประสานงานระหว่างท่านและแพทย์ หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพ
4.   ประสานงานและส่งต่อข้อมูลให้แก่โรงพยาบาลในเครือข่าย และสถานพยาบาลอื่นๆ ในกรณีที่มี การส่งต่อผู้ป่วย
5.   ดำเนินกิจกรรมใด ๆ ทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้งและเรียกเก็บหนี้ การใช้สิทธิสวัสดิการต่างๆ ภาษีและหลักฐานการดำเนินธุรกรรมต่างๆ ที่กฎหมายกำหนด
6.   เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของโรงพยาบาล เช่น การบันทึกเสียงการร้องเรียนผ่านระบบ Call Center, การบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV
7.   ใช้ในการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของ โรงพยาบาล
8.   ใช้ข้อมูลในการยืนยันตัวตนผู้ป่วย
9.   ใช้ในการประเมินผลและปรับปรุงธุรกิจ เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ
10. ตอบสนองต่อคำขอของท่าน เช่น การรับเรื่องร้องเรียน
11. วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน

o      การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาล จะไม่เปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอก เว้นแต่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นไปตามกรณีดังต่อไปนี้

1.    เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โรงพยาบาลอาจจำเป็นต้อง เปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก ดังต่อไปนี้
          1.1 ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
          1.2 ตัวแทน หรือคู่ค้าที่ให้บริการแก่โรงพยาบาล หรือดำเนินการใดๆ ในฐานะตัวแทนของโรงพยาบาล เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง, ผู้ให้บริการเก็บและทำลายเอกสาร ผู้รับจ้างทำกิจกรรม ทางการตลาดและสื่อโฆษณา ผู้รับจ้างพัฒนาและดูแลระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีสารสนเทศ  ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายหรือภาษี เป็นต้น
         1.3 หุ้นส่วนทางธุรกิจ
         1.4 ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิตเป็นต้น

ทั้งนี้โรงพยาบาล จะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
2.     โรงพยาบาล อาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่โรงพยาบาลในเครือ โดยจะเป็นการ ประมวลผลข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น
3.     กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย


o      การถ่ายโอนหรือส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศ
โรงพยาบาล อาจจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ โดยจะทำให้แน่ใจว่าประเทศ ปลายทางหรือหน่วยงานปลายทางมีมาตรฐานและนโยบายในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอ


o      การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาล ได้จัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสมพร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของโรงพยาบาล เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

 
o      ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล
โรงพยาบาล จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่จำเป็นต่อการ ประมวลผลตามวัตถุประสงค์ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยเหตุอื่นใด เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือการตรวจสอบกรณีการเกิดข้อพิพาท โรงพยาบาลอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูล ไว้เป็นระยะเวลาเกินกว่าที่ระบุ

 
o     การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
โรงพยาบาล อาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยจะประกาศบนเว็บไซต์ https://www.meungnarai-hospital.com/พร้อมระบุวันที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด โรงพยาบาลแนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นประจำ  โดยการที่ท่านใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการทางเว็บไซต์ของโรงพยาบาล  ต่อไปหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลง นโยบายความเป็นส่วนตัว จะถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว

 
o     สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้

1.     สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิจะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่  มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่โรงพยาบาลก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

2.    สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ กรณีที่โรงพยาบาลมีสิทธิปฏิเสธคำ ขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความ เสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

3.   สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลบุคคลให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ การแก้ไขดังกล่าว โรงพยาบาลสามารถดำเนินการได้แม้ท่านจะไม่ร้องขอ

4.     สิทธิในการขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
         4. 1.  เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
        4. 2.  เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ โรงพยาบาล ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป
        4. 3. เมื่อท่านคัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและโรงพยาบาล ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะปฏิเสธได้  เว้นแต่กรณีโรงพยาบาล มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน

5.     สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่โรงพยาบาลได้ทำให้ ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ เว้นแต่ โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติ หน้าที่ตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิละเมิดต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น

6.     สิทธิในการขอคัดค้าน  ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
         6.1. กรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งโรงพยาบาลดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์ชอบด้วยกฎหมาย  เว้นแต่โรงพยาบาล ได้แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตาม กฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้น           ต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
         6.2. เพื่อวัตถุประวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
         6.3. เพื่อการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่ โรงพยาบาลมีความจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของโรงพยาบาล

 7.     สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้
          7.1.   เมื่อโรงพยาบาล อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านได้ขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
          7.2.  เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย
          7.3.  เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหมดความจำเป็น เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บ รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการ ใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
          7.4   เมื่อโรงพยาบาล อยู่ในระหว่างการพิสูจน์สิทธิในการปฏิเสธคำขอการคัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

8.     ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากโรงพยาบาล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562   หากท่านมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์จะแก้ไข ลบข้อมูล ใช้สิทธิ    หรือติดต่อเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลของท่าน กรุณาติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อด้านล่าง

 
o      ช่องทางการติดต่อ

          โรงพยาบาลเมืองนารายณ์ (บริษัท โรงพยาบาลเมืองนารายณ์ จำกัด)
          เลขที่ 84 หมู่ 3 ถนนพหลโยธิน ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี 15000
          โทร 036-420-666
          โทรสาร 036-420-619
         E-mail: meungnarai@gmail.com

  • โดยแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ประกอบการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    -  ชื่อ นามสกุลเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน/เลขที่หนังสือเดินทาง
    -  ข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือสิทธิที่ต้องการใช้ตามกฎหมาย
    -  หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ และอีเมลที่สามารถติดต่อกลับได้

 

 ประกาศ ณ  วันที่ 31 พฤษภาคม 2565

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้